ประชาธิปไตยแบบพระไม่เหมือนชาวบ้าน |
|
|
|
เขียนโดย Administrator
|
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 02:28 น. |
การพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรือง สำคัญอยู่ที่ การศึกษา บ้านเมืองเราพากันร่ำร้องหาประชาธิปไตย แต่ถ้าเราไม่ให้ การศึกษาแก่กุลบุตรของเรา ให้มีวิชาความรู้ ความสามารถในการ ทำมาหาเลี้ยงชีพ ประชาธิปไตยจะไม่เกิดขึ้นในบ้านในเมืองเรา เพราะฉะนั้น หลักการสร้างประชาธิปไตยแบบพระๆ มัน อาจจะแตกต่างจากของชาวบ้าน
ประชาธิปไตยของชาวบ้าน เขาจะรวมหัวกันเป็นกลุ่มเป็นพวก ไม่ชอบขี้หน้าใคร เขาก็ร่วมกันเดินขบวนขับไล่ อันนั้นเข้าใจ ว่า ตามความรู้สึกของพระนี่ การรวมหัวกันขับไล่ผู้ที่เราไม่ชอบใจ มันจะกลายเป็นการเผด็จการหมู่
แต่ประชาธิปไตยของพระมันอยู่ที่ตรงนี้ อยู่ที่ต่างคนต่างตั้ง หน้าตั้งตาประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพ
ยกตัวอย่างเช่น กุลบุตรที่อยู่ในวัยการศึกษา ไปศึกษาอยู่ในสังกัดของสถาบันนั้นๆ ต่างคนต่างตั้งใจศึกษา นึกว่าพ่อแม่ส่งไปเรียน เราต้องตั้งใจเรียน เรียนให้มันจบ พอเรียนจบแล้วตั้งหน้าตั้งตา ประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพ สร้างหลักฐานของตนเองให้มั่นคง ให้ มีที่ดินเป็นของของตน มีบ้านเป็นของของตน มีรถยนต์นั่งไปทำงาน มีรายได้เลี้ยงตนและครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข เราก็เป็นใหญ่ ปลอด หนี้ปลอดสิน
อธิปไตย แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ ใครเป็นใหญ่ เป็นใหญ่เราเองนั่นแหละ เพราะเราช่วยตัวเองได้ทุกวิถีทาง เราก็เป็นใหญ่ หลายคน เข้ารวมกันเป็นหมู่เป็นพวก ก็เป็นกลุ่ม เป็นหมู่ ประชา ก็แปลว่า หมู่พวก ประชาธิปไตย แปลว่า กลุ่มคนเป็นใหญ่ คนที่เป็นอิสระแก่ตัวเอง ไม่ตกเป็นทาสแห่งเจ้าหนี้ เราก็อยู่เย็นเป็นสุขสบาย
|