A Free Template from Joomlashack

A Free Template from Joomlashack

แบบสำรวจ

ท่านกำลังใช้ระบบปฏิบัติการ (OS) อะไรอยู่ ?
 

Search

ผู้เข้าเว็บขณะนี้

เรามี 31 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

JComments Latest

  • garilla казино https://t.me/garillacasinobonus
  • https://rukamagra.ru
  • https://generic-dapoxetine.ru
  • Порно сайт: http://www.fazendamontebello.com.br/cu...
  • https://poxetmsk.ru/vliyanie-antibiotikov-na-poten...
รู้ด้วยตัวเอง แก้ด้วยตัวเอง PDF พิมพ์ อีเมล
เขียนโดย Administrator   
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 04:16 น.
หลวงพ่อพุธ  ฐานิโย
 


          จิตมันรู้เข้าไปที่จิต  พอมันเข้าไปถึงจิตแล้ว จิตกระเพื่อมหรือเปล่า  หวั่นไหวหรือเปล่า  มันรักหรือมันเกลียด พอใจหรือไม่พอใจ  นี่! ปรากฏการณ์มันเกิดขึ้นอย่างนี้  ถ้ามันรู้สึกรัก กำหนัดยินดี  นั่น! ของจริงมันปรากฏให้เรารู้

 

          ของจริงอะไร... ความจริงของจิตของเรา มันยังมีกิเลส  เราก็รู้ว่าเรามีกิเลส  เมื่อเรารู้ว่าเรามีกิเลส เราก็รู้จุดบกพร่องของเรา  รู้จุดด่างของเรา  เราจะแก้ไขปรับปรุงอย่างไรต่อไป

  

          ถ้าสมมติว่าเราจะแก้ด้ายที่มันยุ่งๆ  ถ้าเราไม่รู้ปมมัน เราก็ไม่รู้จักที่แก้  ปมยุ่งมันอยู่ที่ตรงไหน เรารู้แล้วเราก็แก้ที่ตรงนั้น


          จิตของเรานี่ก็เหมือนกัน ในเมื่อมันประสบอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันมีกิเลสไหม


          ถ้ายินดีมันก็มีกิเลส ถ้ายินร้ายมันก็มีกิเลส ถ้ายึดติดมันก็มีกิเลส

  

          นี่! ความจริงมันปรากฏให้เรารู้แล้วว่าเรามีกิเลส
          ต่อไปเมื่อเรารู้แล้วว่าเรามีกิเลส เราจะปฏิบัติอย่างไร
          กิเลสมันปรากฏ กำหนดสติรู้มัน
          อารมณ์มันปรากฏ กำหนดสติรู้มัน
          เอาสติตัวเดียว

  

          พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้อย่างชัดเจน
          ตัณหามันเกิดที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
          มันก็ดับที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
          มันจะดับได้อย่างไร
          ฝึกสติ
          พระอานนท์ถามว่ามันจะดับได้อย่างไร
          ฝึกสติให้มันเข้มแข็ง

  

          เราจะฝึกสติอย่างไร
          การฝึกสติ ต้องทำจิตให้มีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก อะไรก็ได้   ในเมื่อจิตของเรายังไม่เป็นเอง เราทำเอา  นึกถึงสิ่งนั้น นึกถึงสิ่งนี้  นึกถึง ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก  อันนี้คือการฝึกจิตให้มีสิ่งรู้

  


           ทีนี้ถ้าจิตมันหาสิ่งรู้มาให้ตัวมันเอง มันคิดขึ้นมาเองได้ เรารู้ ความคิดนั่นแหละเป็นอารมณ์สิ่งรู้ของจิต  ทางปฏิบัติ เราเอาสติ กำหนดรู้อย่างเดียวเท่านั้น แค่นี้มันก็หมดปัญหาแล้ว  จะไปยุ่งอะไร     จะไปเที่ยวให้หลวงพ่อพุธแก้ให้ มันก็แก้ไม่ได้ มันต้องแก้ตัวเอง


           เห็นสาวๆ แล้วนั่งดู  มันรักมันชอบ ก็ให้มันรักมันชอบไป แต่ว่าสตินี่เป็นตัวสำคัญ ในขณะที่มันรักมันชอบ มันก็สร้างบาปขึ้นในใจ  มันอยากจะทำอย่างนั้น มันอยากจะทำอย่างนี้  พอไปๆ มาๆ สติมันเข้มแข็ง มีปัญญา มันก็บอกกับตัวเองว่า สิ่งนี้ไม่ควรแก่เรา เราไม่ควรทำ แล้วในที่สุดมันก็เลิกคิด


 

เพิ่มคอมเมนต์ใหม่

รหัสป้องกันความปลอดภัย
รีเฟรช

 

Joomla 1.5 Templates by Joomlashack