ความจำ ๒ ขั้น ปัญญา ๒ ขั้น |
|
|
|
เขียนโดย Administrator
|
วันพุธที่ 09 มกราคม 2013 เวลา 05:22 น. |
ความจำมี ๒ ขั้น ขั้นหนึ่ง จำด้วยสัญญาธรรมดา อีกขั้นหนึ่ง จิตใต้สำนึกมันบันทึกเอาไว้ อันนั้นไม่ลืม กี่ภพกี่ชาติก็ไม่ลืม ปัญญาก็มี ๒ ขั้น สติปัญญา เกิดจากความทรงจำ ปัญญาที่เกิดจากจิตใต้สำนึก คือ ภาวนามยปัญญา จำ คิด อันนี้เป็นสติปัญญาธรรมดา ส่วนปัญญาที่เกิดหลังจากที่เราใช้ความคิดจนสุดเหวี่ยงแล้ว จิตมันว่างลง แล้วมันเกิดความรู้ขึ้นมา อันนี้คือสมาธิปัญญา ความจำก็มี ๒ ขั้น ปัญญาก็มี ๒ ขั้น จำโดยสัญญามันลืมเป็น แต่ถ้ามันจำด้วยจิตใต้สำนึก มันจะไม่ลืม เช่นอย่างเวลาเราทำสมาธิแล้วเกิดสมาธิ เกิดภูมิความรู้อะไรขึ้นมานี่ จะกี่ปีๆ มันก็ไม่เคยลืม มันคล้ายๆ มองดูแล้วเหมือนมันมีอยู่ตลอดเวลา อันนี้กระมังที่นักภาวนาท่านต้องการ ที่หลวงปู่มหาบัวท่านว่า มันอัดเต็มตื้นอยู่ในนี้ อยู่ในใจนี่แหละ มันรู้สึกว่ามันมีอะไรเอิบอิ่มอยู่ในใจนี่แหละ ท่านว่าอย่างนี้ อันนั้นมันเป็นเรื่องจิตใต้สำนึกที่มันบันทึกผลงานเอาไว้
ทีนี้ความทรงจำหรือความรู้ความคิดธรรมดานี่ คิดขึ้นมาแล้วจำได้สักหน่อยหนึ่งมันก็ลืม แต่อันนั้นมันไม่ลืม
เพราะฉะนั้น เวลาตายนี่ ถึงจะมาบอกกันว่า พุทโธเด๊อ พุทโธเด๊อ มันไม่มีทางหรอก มันต้องจดจำให้คล่อง จดจำฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกตั้งแต่ปัจจุบันนี่ เวลาจะตายมันถึงจะคิดได้
คนเราเวลาจะตายจริงๆ นี่ สัญญาเจตนาความตั้งใจว่าเราจะไปไหนมาไหนมันหายขาดไปหมดแล้ว มันจึงเกิดความคิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งมันเกิดมาจากจิตใต้สำนึก ถ้าหากว่าเราไม่มีอะไรที่จิตมันบันทึกเอาไว้ละก็ จะไปบอกพุทโธแค่ไหน อรหังเด๊อ อรหังเด๊อ อรหังเด๊อ ไอ้คนที่มันไปจับหอยมาแกงก็ อรหอย อรหอย
|