เขียนโดย Administrator
|
วันพุธที่ 09 มกราคม 2013 เวลา 02:45 น. |
ความเข้าใจของนักสมาธิ มีอยู่ ๒ อย่าง
อย่างหนึ่ง เราภาวนายุบหนอ-พองหนอ ยุบหนอ-พองหนอพอจิตเคลิ้มลงไป ทำท่าสงบลงไป "สงบหนอ" จิตมันก็ตื่นพอเผลอๆ ไป เกิดปีติ "ปีติหนอ" จิตมันก็ตื่น มันก็ไม่เข้าถึงสมาธิตามหลักธรรมชาติสักที
สมาธิที่เป็นไปตามธรรมชาติจริงๆ นั้น เราไม่ได้แต่งมันหรอก เพียงแต่ว่าเราทำจิตให้มีอารมณ์สิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก เช่น พุทโธๆๆๆ เป็นต้น นี่อารมณ์สิ่งรู้ของจิต สิ่งระลึกของสติ เมื่อเราภาวนาพุทโธไปไม่หยุด จิตมันทิ้งพุทโธปั๊บ มันวูบลงไป นิ่ง สว่าง นั่นคือสมาธิตามธรรมชาติที่มันเกิดขึ้น
ทีนี้ถ้าหากว่าสมาธิของเรามีพลังเข้มแข็ง ต่อไปมันจะปฏิวัติตัวไปทางไหน ทางไปของมัน ทางใหญ่มีอยู่ ๒ ทาง
ทางหนึ่ง มันนิ่ง สว่าง แล้วมันก็ว่างๆๆๆ ละเอียดไป จนกระทั่งร่างกายตัวตนหาย อันนี้ท่านเรียกว่าสมาธิในฌานสมาบัติ ภาษาบาลีเรียกว่า อารัมมณูปนิชฌาน จิตสงบแล้วรู้ในสิ่งๆ เดียว ความรู้อื่นมันไม่ปรากฏขึ้น
อีกทางหนึ่ง พอพุทโธๆ ไปพอทิ้งพุทโธปั๊บ นิ่งว่าง สว่าง ประเดี๋ยวความคิดมันก็เกิดผุดๆๆๆ ขึ้นอย่างกับน้ำพุ อันนี้ท่านเรียกว่า ลักขณูปนิชฌาน เป็นสมาธิตามแนวทางแห่งอริยมรรค
|